"เพราะว่าเป็นประเทศของเรา
ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน
เป็นประเทศของคนทุกคน
เพราะปัญหามีอยู่
ที่เวลาเกิดจะใช้คำว่าบ้าเลือด
เวลาคนมีการปฎิบัติรุนแรงมันลืมตัว
ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร
แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร
เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ
แล้วใครจะชนะ ไม่มีทาง
อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้
คือต่างคนต่างแพ้
ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้
แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ
ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ
ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร
ถ้าสมมติว่า
เฉพาะในกรุงเทพมหานครเสียหายไป
ประเทศก็เสียหายไปทั้งหมด
แล้วก็จะมีประโยชน์อะไร
ที่จะทะนงตัวว่าชนะ
เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง"
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
20 พฤษภาคม 2535
ขอขอบคุณhttp://news.thaihealth.net/
วันที่ 10 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 23.20 น.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล เสนอสูตรการเมืองใหม่เพื่อเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ว่า ในแกนนำพันธมิตรฯ ยังไม่มีใครแม้แต่คนเดียว ที่เสนอสูตรการเมืองใหม่แบบตายตัว ทุกคนเสนอเป็นตุ๊กตาให้ประชาชนเลือก แต่วัตถุประสงค์ของการเมืองใหม่นั้น คือ จะต้องเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มอาชีพเข้าไปเป็นผู้แทนในสภา เป็นหลักการชัดเจน ยกตัวอย่างสูตรที่เสนอโดยแกนนำบางคน เสนอเลือกตั้ง 70 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มอาชีพอีก 30 เปอร์เซ็นต์ บางคนเลือกตั้ง 30 กลุ่มอาชีพ 70 เปอร์เซ็นต์ นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า การเมืองใหม่จะต้องนำทรัพยากรของชาติ ที่ถูกโกง ถูกแปรรูปไป เช่น ปตท.คืนมา แล้วจัดรัฐสวัสดิการเพื่อประชาชนทุนคน นอกจากนี้กระบวนการยุติธรรมต้องยุติธรรมจริงๆ ต้องรื้อทิ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปอยู่ท้องถิ่น แล้วมีตำรวจส่วนกลางไปตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง ขณะที่อัยการก็จะต้องถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ไม่ใช่รับเรื่องอะไรไปแล้วทำนิ่งเฉยอย่างปัจจุบัน วันนี้อัยการจึงเป็นองค์กรที่เหนี่ยวรั้งกระบวนการยุติธรรมให้ล้าช้า ซึ่งตามปรัชญากฎหมายแล้ว ความล่าช้า คือ ความไม่ยุติธรรมนั่นเอง “ความไม่ยุติธรรมมีอยู่มาก ยกตัวอย่างผม คดีหมิ่นฯ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดำเนินการ 6 วัน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล 2 วัน ส่วนนายจักรภพ เพ็ญแข นั้นถามว่า จะใช้เวลาเป็นปีหรือไม่ ฉะนั้นจำเป็นที่อัยการจะต้องมี 2 ระบบ ระบบแรกเรียกว่า อัยการที่เป็นองค์กรอิสระ และระบบที่สองเลือกมาจากองค์กรอิสระ และรัฐสภา ตั้งอัยการอิสระขึ้นมาเพื่อทำคดีใดคดีหนึ่งที่ประชาชนเรียกร้องเป็นการเฉพาะนั่นเอง แล้วไม่จำเป็นต้องไปเลือกจากอัยการ เลือกจากนักกฎหมายที่มีอยู่ทั่วประเทศ สามารถเข้าไปทำหน้าที่อัยการได้อย่างสบายมาก เฉกเช่นที่ประเทศแถบยุโรปกระทำกัน ประชาชนก็จะเลิกคลางแคลงอัยการ นี่คือการเมืองใหม่”นายสมเกียรติ กล่าว นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า การเมืองใหม่จะต้องเป็นการเมืองที่มีฐานที่แข็งแกร่ง เป็นการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใครจะมาเตะต้องไม่ได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมามีความพยายามจากคนบางกลุ่ม จะสถาปนาประเทศไทยเป็นระบอบสาธารณรัฐ โดยยกตัวอย่างประเทศเนปาลมาเทียบเคียง ถึงขนาดที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องกล้ำกลืนเขียนหนังสือ “ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า”พร้อมระบายความในใจผ่านคำนำในหนังสือดังกล่าว ระบุมีคนมักใหญ่ใฝ่สูงคนหนึ่ง ต้องการสร้างระบอบสาธารณรัฐในประเทศไทย สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต ระบุมานั้นเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องดูกันอีกครั้ง แต่เชื่อว่าในวันนี้ คนที่ถูกล่าวถึงไม่อยู่ในประเทศแล้ว เพราะใครคิดชั่วเป็นไปตามหลวงตามหาบัวบอกว่า ถ้าอยู่ในแผ่นดินนี้ถูกสูบแน่นอน นอกจากนี้ นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายว่า พันธมิตรฯ จำเป็นต้องพูดการเมืองใหม่มากขึ้น แต่การเมืองใหม่จะพูดไม่ได้เลย ถ้ามีรัฐบาลที่เลวมาเป็นรัฐบาลรักษาการเฉพาะกิจ ดีใจที่ผู้หลักผู้ใหญ่ทางการเมืองอย่างน้อย 2 ท่านกลับตัวกลับใจ ท่านหนึ่งเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อเปิดทางสร้างการเมืองใหม่ ส่วนอีกท่าน แม้นพันธมิตรฯ จะล่วงเกินไปบ้าง แต่ก็เป็นการต่อสู้กันทางความคิดและในทางการเมือง วันนี้กลับลำไม่เห็นด้วยที่จะเสนอนายสมัคร สุนทรเวช กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นจะเห็นว่า ทุกคนสามารถกลับใจได้ พันธมิตรฯ จะไม่รังเกียจนักการเมืองที่กลับตัวกลับใจทำเพื่อชาติ บ้านเมือง อย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ขอเรียกร้องให้เลือกเฟ้นคนที่ดีที่สุดมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากหาไม่ได้ขอให้แจ้งมาที่พันธมิตรฯ พันธมิตรฯ จะจัดหาให้ได้อย่างแน่นอน
ขอขอบคุณhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?newsid=9510000107561
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
1 ความคิดเห็น:
หากทุกคนรู้จักคิดตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประเทศของเราก็คงจะสงบสุข
เพราะถ้าทุกคนใช้แต่ความรุนแรงแก้ไขปัญหา คิดแต่จะเอาชนะกันไม่มีใครยอมใคร บ้านเมืองก็คงไม่สงบสุขสักที
น.ส.จุทารัตน์ พงศาปาน
5131601282
Section 2
แสดงความคิดเห็น