วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

สนธิย้ำไม่รับรัฐบาลพปช. ชูตั้ง'สภาประชาภิวัฒน์' [15 ก.ย. 51 - 03:30]


เมื่อกลางดึกวานนี้ (14 ก.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 22/ 2551 ของพันธมิตรฯ ประกาศจุดยืนกรณีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยระบุว่า “รัฐบาลประชาภิวัฒน์เท่านั้นที่จะแก้ไขวิกฤติชาติได้”
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์อ้างถึงแถลงการณ์ฉบับที่ 21/2551 เมื่อวันที่ 9 ก.ย. และนายสนธิ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เกิดขบวนการและความพยายามในการบิดเบือนข้อมูล แอบอ้างความเรียบร้อยและความสงบเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพียงเพื่อมิให้ประชาชนสนใจต่อนักการเมืองที่ไร้จริยธรรม ทุจริตคอรัปชัน ขายชาติ และย่ำยีกฎหมาย พร้อมๆ กับความพยายามที่จะนำเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลหุ่นเชิดเพื่อให้พรรคพลังประชาชนแสวงประโยชน์แต่ฝ่ายเดียวไม่มีสิ้นสุด ดำรงวิกฤติที่สุดในโลกและความล่มจมประเทศชาติต่อไป ไม่ว่าจะเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมีภรรยาถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตคอรัปชันและร่ำรวยผิดปกติ, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการยุติธรรมหุ่นเชิด ผู้ที่ได้โยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้เป็นคนใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือครอบครัวชินวัตร หรือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้ที่มีประวัติด่างพร้อยร่วมกับรัฐบาลทักษิณออกสลากพิเศษ 2 ตัว และ 3 ตัวโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนแสดงพฤติกรรมช่วยเหลือในการคืนเงินที่อายัดให้กับครอบครัวชินวัตร ดังนั้น พันธมิตรฯ จึงไม่ต้องการ "นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดหรือรัฐบาลผสมที่มีส่วนร่วมจากพรรคพลังประชาชน"
นายสนธิ ยังกล่าวถึงจุดยืนของพันธมิตรฯ ว่าไม่ต้องการรัฐบาลแห่งชาติที่มาจากการส่งตัวแทนทุกพรรคการเมืองเข้าร่วมรัฐบาล รวมถึงไม่ต้องการรัฐประหารเพื่อกลุ่มผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง พร้อมเสนอทางออกในการแก้วิกฤติทางการเมืองในครั้งนี้ด้วยการให้มี "รัฐบาลประชาภิวัฒน์" ซึ่งมีหลักการคือ ส่งเสริมให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง มิให้คนไม่ดีมีอำนาจ โดยขอให้นักการเมืองในรัฐสภายอมเสียสละพื้นที่ของตัวเอง ยอมให้บุคคลที่เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย มีความสามารถ และมีความจริงใจในการแก้ไขวิกฤติของบ้านเมือง ให้เข้ามาบริหารประเทศชั่วคราวโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกระดับ ปราศจากตัวแทนผลประโยชน์ของพรรคการเมือง ปราศจากตัวแทนผลประโยชน์ของกลุ่มการเมือง และปราศจากตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ของกลุ่มทุน และให้รัฐบาลประชาภิวัฒน์เข้ามาดำเนินการภารกิจเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขวิกฤติของบ้านเมือง
นายสนธิ กล่าวว่า รัฐบาลประชาภิวัฒน์ จะมาจากองค์กรประชาชนทุก ภาคส่วน ทุกสาขาอาชีพ เพื่อกำหนดอนาคตและทิศทางของประเทศชาติร่วมกัน ช่วยกันพัฒนาสร้างสรรค์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทั้งเนื้อหา รูปแบบ โครงสร้างทางการเมืองและวัฒนธรรมทางการเมือง ที่อยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางเพื่อความเป็นธรรมในสังคม และรับผิดชอบโดยให้ประชาชนมีอำนาจในการตรวจสอบได้อย่างแท้จริง ร่วมกำหนด "วาระแห่งชาติ" รวมถึงร่วมกับประชาชน เพื่อทำให้เกิด "สภาประชาภิวัฒน์" ที่มีองค์ประกอบหลากหลาย กว้างขวาง เพื่อนำพาประเทศให้พ้นจากวิถีการเมืองแบบเดิม ที่เอื้อต่อการทุจริต คอรัปชัน ใช้เล่ห์เพทุบายเพื่อหลบเลี่ยงจากการตรวจสอบ และไม่ตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น: