แทบทุกคนจะถามกันอย่างงุนงงว่า กลุ่มที่เรียกตนเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นั้น ความต้องการที่แท้จริงของเขาคืออะไรกันแน่ จากจุดเริ่มต้นในการต่อต้านรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลายมาเป็นขบวนการที่อ้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน และนำมาสู่การต่อต้านรัฐบาลสมัคร สุนทรเวชด้วยความรุนแรง จนถึงขั้นบุกยึดทำเนียบรัฐบาลและสถานที่ทางราชการต่างๆ อย่างไม่เกรงฟ้าดิน
จนทำให้คนทั่วโลกเขารู้สึกว่าเมืองไทยไร้กฎหมาย กลายเป็นเมืองที่ไร้ขื่อแปไปเสียแล้ว
พันธมิตรฯ ต้องการอะไร?
ใครหนุนหลังพันธมิตรฯ?
เขาคิดล้มใครหรือล้มอะไรกันแน่?
ผมเองก็ใคร่ครวญหาคำอธิบายอยู่นานพอสมควร พยายามฟังคำหยาบคายต่างๆ ที่สาดใส่กันอยู่บนเวทีอย่างจริงจัง ก็ไม่ได้คำอธิบายที่พึงใจ แต่ในที่สุดผมก็ไปอ่านบทความสั้นๆ ที่ใครไม่รู้เขียนเอาไว้อย่างคนที่ติดตามสถานการณ์ต่างๆ ในมิติที่ลึกซึ้ง ก็ให้บังเกิดพุทธิปัญญาขึ้นมาอย่างฉับพลัน ผมก็เลยกราบขออนุญาตท่านผู้เขียนนำมาเสนอซ้ำที่ตรงนี้ หวังว่าท่านคงจะไม่ติดใจอะไรในเชิงลิขสิทธิ์ และเอาบ้านเมืองไว้ก่อนเป็นสำคัญ
เชิญชมครับ “ปฏิบัติการยึดเมืองในนาม “ยุทธการไทยคู่ฟ้า “อย่างอุกอาจของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ตั้งแต่เช้าวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551 สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของผู้นำอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล และจำลอง ศรีเมืองที่ชัดเจนว่า พร้อมจะใช้รูปแบบของการยึดอำนาจแบบเดียวกันกับที่กลุ่มบอลเชวิกในรัสเซียใต้การนำของลีออน ทรอตสกี้กระทำในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1917 ซึ่งตรงกันข้ามกับคำประกาศ”อารยะขัดขืน”ที่เคยชูขึ้นมาเป็นกลยุทธ์การต่อสู้ตั้งแต่แรกอย่างสิ้นเชิง
การกระทำดังกล่าว ยืนยันชัดเจนถึงการยกระดับทางยุทธศาสตร์ของการต่อสู้จากคอมมูนมัฆวานฯ(สร้างรัฐซ้อนรัฐ) มาสู่การยึดอำนาจรัฐโดยตรง(โค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เพื่อสร้างการเมืองใหม่) ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างหมดเปลือก เดือนมิถุนายนกลุ่มพันธมิตรฯได้ประกาศยกระดับการชุมนุมจากต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาเป็นการโค่นล้มรัฐบาลสมัคร โดยจัดกำลังเพื่อชุมนุมยืดเยื้อโดยใช้เขตยึดครองที่ถนนราชดำเนินแถวสะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นเมืองพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยราชดำเนิน) โดยจำลอง ศรีเมือง ได้ขยายความว่าเป็น "สถานที่ชุมนุมเริ่มเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์" ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันด้วยระเบียบวินัย การทำอะไรต้องฟังเสียงคนหมู่มาก ทุกคนสามารถทำอะไรได้อย่างอิสระเสรี ปลอดจากอำนาจรัฐบาลสมัคร การตั้งเขตอำนาจรัฐใหม่ดังกล่าว ได้รับการยกยอจากนายสุรพงศ์ ชัยนาม อดีตนักการทูตที่ยืนอยู่ข้างเดียวกันว่า คล้ายคลึงกับ New Harmony Society เมืองอุดมคติของสังคมนิยมเพ้อฝันโดยโรเบิร์ต โอเวนใน ค.ศ. 1817 ที่อเมริกา (โดยไม่ยอมพูดถึงข้อเท็จจริงว่า ชุมชนดังกล่าวล้มตั้งแต่เริ่ม)
โดยสาระ เมืองพันธมิตรฯนี้ มีลักษณะสำคัญคือ
- เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์สู้รบทางการเมืองชั่วคราว
- เป็นเขตปลอดอำนาจรัฐที่สมัคร สุนทรเวชเป็นนายกรัฐมนตรี
- เป็นรัฐชั่วคราวที่ปราศจากชนชั้น และต้องการสร้างระบบพึ่งพาตนเองชั่วคราวเพื่อตรึงสถานการณ์ต่อสู้เอาไว้ให้ครบครัน
- เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่แนวทางของกลุ่มพันธมิตรฯต่อสาธารณะอื่นๆ หากได้รับชัยชนะในการต่อสู้ เพื่อขยายผลออกไปในระยะยาว
จนทำให้คนทั่วโลกเขารู้สึกว่าเมืองไทยไร้กฎหมาย กลายเป็นเมืองที่ไร้ขื่อแปไปเสียแล้ว
พันธมิตรฯ ต้องการอะไร?
ใครหนุนหลังพันธมิตรฯ?
เขาคิดล้มใครหรือล้มอะไรกันแน่?
ผมเองก็ใคร่ครวญหาคำอธิบายอยู่นานพอสมควร พยายามฟังคำหยาบคายต่างๆ ที่สาดใส่กันอยู่บนเวทีอย่างจริงจัง ก็ไม่ได้คำอธิบายที่พึงใจ แต่ในที่สุดผมก็ไปอ่านบทความสั้นๆ ที่ใครไม่รู้เขียนเอาไว้อย่างคนที่ติดตามสถานการณ์ต่างๆ ในมิติที่ลึกซึ้ง ก็ให้บังเกิดพุทธิปัญญาขึ้นมาอย่างฉับพลัน ผมก็เลยกราบขออนุญาตท่านผู้เขียนนำมาเสนอซ้ำที่ตรงนี้ หวังว่าท่านคงจะไม่ติดใจอะไรในเชิงลิขสิทธิ์ และเอาบ้านเมืองไว้ก่อนเป็นสำคัญ
เชิญชมครับ “ปฏิบัติการยึดเมืองในนาม “ยุทธการไทยคู่ฟ้า “อย่างอุกอาจของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ตั้งแต่เช้าวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551 สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของผู้นำอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล และจำลอง ศรีเมืองที่ชัดเจนว่า พร้อมจะใช้รูปแบบของการยึดอำนาจแบบเดียวกันกับที่กลุ่มบอลเชวิกในรัสเซียใต้การนำของลีออน ทรอตสกี้กระทำในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1917 ซึ่งตรงกันข้ามกับคำประกาศ”อารยะขัดขืน”ที่เคยชูขึ้นมาเป็นกลยุทธ์การต่อสู้ตั้งแต่แรกอย่างสิ้นเชิง
การกระทำดังกล่าว ยืนยันชัดเจนถึงการยกระดับทางยุทธศาสตร์ของการต่อสู้จากคอมมูนมัฆวานฯ(สร้างรัฐซ้อนรัฐ) มาสู่การยึดอำนาจรัฐโดยตรง(โค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เพื่อสร้างการเมืองใหม่) ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างหมดเปลือก เดือนมิถุนายนกลุ่มพันธมิตรฯได้ประกาศยกระดับการชุมนุมจากต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาเป็นการโค่นล้มรัฐบาลสมัคร โดยจัดกำลังเพื่อชุมนุมยืดเยื้อโดยใช้เขตยึดครองที่ถนนราชดำเนินแถวสะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นเมืองพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยราชดำเนิน) โดยจำลอง ศรีเมือง ได้ขยายความว่าเป็น "สถานที่ชุมนุมเริ่มเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์" ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันด้วยระเบียบวินัย การทำอะไรต้องฟังเสียงคนหมู่มาก ทุกคนสามารถทำอะไรได้อย่างอิสระเสรี ปลอดจากอำนาจรัฐบาลสมัคร การตั้งเขตอำนาจรัฐใหม่ดังกล่าว ได้รับการยกยอจากนายสุรพงศ์ ชัยนาม อดีตนักการทูตที่ยืนอยู่ข้างเดียวกันว่า คล้ายคลึงกับ New Harmony Society เมืองอุดมคติของสังคมนิยมเพ้อฝันโดยโรเบิร์ต โอเวนใน ค.ศ. 1817 ที่อเมริกา (โดยไม่ยอมพูดถึงข้อเท็จจริงว่า ชุมชนดังกล่าวล้มตั้งแต่เริ่ม)
โดยสาระ เมืองพันธมิตรฯนี้ มีลักษณะสำคัญคือ
- เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์สู้รบทางการเมืองชั่วคราว
- เป็นเขตปลอดอำนาจรัฐที่สมัคร สุนทรเวชเป็นนายกรัฐมนตรี
- เป็นรัฐชั่วคราวที่ปราศจากชนชั้น และต้องการสร้างระบบพึ่งพาตนเองชั่วคราวเพื่อตรึงสถานการณ์ต่อสู้เอาไว้ให้ครบครัน
- เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่แนวทางของกลุ่มพันธมิตรฯต่อสาธารณะอื่นๆ หากได้รับชัยชนะในการต่อสู้ เพื่อขยายผลออกไปในระยะยาว
ที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น