วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

หลักบริหารบ้านเมือง นายกฯ ใหม่ยึดซื้อสัตย์ - ก.ม.

วันนี้ (18 ก.ย.) ว่า เวลาประมาณ 19.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 ที่บ้านพักเลขที่ 222/92 หมู่บ้านเบเวอร์ลี่ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ ว่า “วันนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กระผมนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินสนองพระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นหาที่สุดมิได้ในครั้งนี้ เป็นศิริมงคลแก่กระผมและครอบครัวอย่างสูงสุด กระผมจะขอเทิดทูนไว้เหนือชีวิต ด้วยความจงรักภักดีตลอดไป
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพทุกท่าน กระผมขอยืนยัน ณ โอกาสนี้ ว่า จะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโดยการทุ่มเท เสียสละ ด้วยวิริยะอุตสาหะ ด้วยความมีคุณธรรม ยึดมั่นในหลักกฎหมาย ยึดมั่นในหลักแห่งกระบวนการยุติธรรมเพื่อความเป็นธรรม เรียบร้อย ในบ้านเมืองของเรา
พี่น้องประชาชนที่เคารพ ขณะนี้ ในประเทศบ้านเมืองของเรานั้น มีปัญหาที่จะต้องดำเนินการแก้ไข คงจะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า บางครั้งเรามีความขัดแย้งทางความคิด การขัดแย้งเหล่านั้น ตนคิดว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เราคงจะต้องมองว่า เกิดขึ้นแล้วทำอย่างไรจึงจะนำพาไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ และความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมืองเราต่อไป ตนคิดว่า สิ่งนี้ คงต้องคิดกันอย่างรอบคอบและมีเหตุผล
ตนประสงค์ที่จะให้พี่น้องประชาชนชาวไทยของเราได้กลับมาร่วมกันคิด คิดว่า ความเป็นพี่เป็นน้องของเรานั้น จะต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง ความเป็นชาติ ความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ความเจริญก้าวหน้าของพี่น้องประชาชนร่วมกันนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เราน่าจะหันหน้าเข้ามาสู่ความปรองดอง อะลุ่มอล่วยให้อภัยซึ่งกันและกันไม่ถือโทษโกรธกัน และจะต้องมีความเมตตาอารี เอื้ออาทรแก่กัน ตนคิดว่า สิ่งนี้ ย่อมมีอยู่ในหัวใจของเราทุกคนถ้าหากว่าเราได้ดำเนินการ มีวิธีคิด ที่ถูกต้องตามครรลองครองธรรม
พี่น้องทุกท่านตนคิดว่า หากเราได้ยึดหลักอย่างนี้ แล้ว ประเทศชาติของเราจะกลับคืนมาสู่ความร่วมเย็นเป็นสุขภายใต้พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราจะทำให้เราได้ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้วัฒนาถาวรต่อไป ขณะนี้ เรามีปัญหาอื่นๆ ที่จะต้องร่วมกันแก้ไขอีกมากมาย ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลของกระผมที่จะได้เกิดขึ้นโดยสำเร็จสมบูรณ์ในเร็ววันนี้ จะคำนึงถึงประโยชน์สุข ความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน เป้าหมายสูงสุด คือ การร่วมกันนำพาประชาชนของเรา ประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรื่องและวัฒนาถาวร
เรามีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าเข้ามาหลายด้าน อย่างปัจจุบันนี้ เช่น เรื่องเกี่ยวกับเงินทุนที่ค่อนข้างจะไหลเข้ามาน้อยในประเทศของเรา หรือ ปัญหาที่บริษัทต่างชาติที่มีเงินทุนจำนวนมากเกินประสบความล้มเหลวในการบริหาร กระทบกระเทือนถึงภาวะเศรษฐกิจในบ้านเรา หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ ผสมผสานกัน ดังนั้น คิดว่า ถ้าเราไม่ช่วยกันแก้ไขแล้วใครจะมาช่วยเราแก้ไข คนไทยเท่านั้น ที่จะต้องหันหน้าเข้าหากันและร่วมมือกันแก้ไขสิ่งที่มีปัญหาเกิดขึ้นในบ้านเรา
ตนขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านช่วยกัน ทุกท่านเป็นหุ้นส่วนของประเทศของเรา รัฐบาลนั้น เป็นผู้มีหน้าที่ในการบริหารให้เกิดพลังและผลักดันประเทศชาติของเราให้เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าหากมีความมุ่งมั่นอย่างไรก็ตามประชาชนในชาติไม่รักสามัคคีกัน ไม่ร่วมกันผลักดันแล้วก็คงจะสำเร็จลงไปได้ยาก ตนหวังว่า พี่น้องประชาชนทั้งหลายคงจะได้ร่มมือกัน ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกท่านที่จะได้มีโอกาสเข้ามาร่วมกันในการที่จะสรรสร้างความรักความสามัคคีในการที่จะร่วมกันเสริมสร้างภาวะเศรษฐกิจที่ดีให้แก่บ้านเมืองของเรา
ขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชน เพื่อนข้าราชการ ที่จะได้นำเอานโยบายทั้งหลาย ความประสงค์ของพี่น้องประชาชนทั้งหลายไปปฏิบัติให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ ดังนั้น ถ้าทุกฝ่ายได้ร่วม มือกันแล้วตนมั่นใจว่า ความประสงค์ของเราทุกคนจะประสบความสำเร็จพร้อมกัน นำพาประเทศชาตอของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรื่องในที่สุด”

Credit : http://www.thairath.co.th/

ไม่มีความคิดเห็น: