นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปราย ระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ ว่า วิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ สืบเนื่องมาจากรัฐบาลพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรีไม่ให้มีความผิด และนายกฯ ได้พยายามใช้สื่อของรัฐโจมตีฝ่ายตรงข้ามในทางการเมือง
ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีพฤติกรรมที่มุ่งทำลายล้างองค์กรอิสระ โดยทั้งหมดที่กล่าวมา ก่อให้เกิดวิกฤติขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอเสนอแนะว่า รัฐบาลและนายกฯ ต้องไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและถึงเวลาแล้วที่นายกฯ จะต้องหันมาทบทวนบทบาทและพฤติกรรมอย่างจริงจัง นอกจากนั้น ต้องถามตัวเองว่า สมควรที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ เพราะแม้นายกฯ ยังอยู่ได้ แต่เชื่อว่ายากจะบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า นายกฯ ต้องพิจารณาว่า ถ้านายกฯ อยู่ บ้านเมืองจะเสี่ยงต่อการสูญเสียเลือดเนื้อหรือไม่ และบ้านเมืองจะสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียประชาธิปไตยหรือไม่ ตนรู้ว่า กว่าจะมาเป็นนายกฯ ได้ต้องสั่งสมประสบการณ์มายาวนาน และเพิ่งเป็นนายฯ มา 7 เดือน และเข้าใจที่นายกฯ บอกว่า มาจากการเลือกตั้ง มาจากระบอบประชาธิปไตย แต่การเปลี่ยนแปลงในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว และจะทำให้บ้านเมืองพ้นวิกฤติ
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อภิปรายว่า ตนพิจารณาตัวเองแล้ว ไมได้ทำอย่างที่นายจุรินทร์กล่าวหา การอภิปรายดูเหมือนว่า ฝ่ายที่ปลุกระดม ยึดทำเนียบรัฐบาลยึดสถานีโทรทัศน์เป็นฝ่ายที่ทำถูก แต่ฝ่ายรัฐบาลทำผิด ทั้งที่รัฐบาลยืนยันว่า จะไม่ใช่ความรุนแรง และฝ่ายตำรวจไม่ได้เป็นฝ่ายที่ยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชน ขอให้ย้อนดูว่าสิ่งที่นายจุรินทร์พูดมีความเท็จและจริงอย่างไร และที่นายจุรินทร์พูดอย่างนี้ ชาวบ้านชาวเมืองที่ฟัง ก็รู้ว่า อยู่ข้างกลุ่มผู้ชุมนุม
ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีพฤติกรรมที่มุ่งทำลายล้างองค์กรอิสระ โดยทั้งหมดที่กล่าวมา ก่อให้เกิดวิกฤติขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอเสนอแนะว่า รัฐบาลและนายกฯ ต้องไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและถึงเวลาแล้วที่นายกฯ จะต้องหันมาทบทวนบทบาทและพฤติกรรมอย่างจริงจัง นอกจากนั้น ต้องถามตัวเองว่า สมควรที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ เพราะแม้นายกฯ ยังอยู่ได้ แต่เชื่อว่ายากจะบริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า นายกฯ ต้องพิจารณาว่า ถ้านายกฯ อยู่ บ้านเมืองจะเสี่ยงต่อการสูญเสียเลือดเนื้อหรือไม่ และบ้านเมืองจะสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียประชาธิปไตยหรือไม่ ตนรู้ว่า กว่าจะมาเป็นนายกฯ ได้ต้องสั่งสมประสบการณ์มายาวนาน และเพิ่งเป็นนายฯ มา 7 เดือน และเข้าใจที่นายกฯ บอกว่า มาจากการเลือกตั้ง มาจากระบอบประชาธิปไตย แต่การเปลี่ยนแปลงในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว และจะทำให้บ้านเมืองพ้นวิกฤติ
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อภิปรายว่า ตนพิจารณาตัวเองแล้ว ไมได้ทำอย่างที่นายจุรินทร์กล่าวหา การอภิปรายดูเหมือนว่า ฝ่ายที่ปลุกระดม ยึดทำเนียบรัฐบาลยึดสถานีโทรทัศน์เป็นฝ่ายที่ทำถูก แต่ฝ่ายรัฐบาลทำผิด ทั้งที่รัฐบาลยืนยันว่า จะไม่ใช่ความรุนแรง และฝ่ายตำรวจไม่ได้เป็นฝ่ายที่ยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชน ขอให้ย้อนดูว่าสิ่งที่นายจุรินทร์พูดมีความเท็จและจริงอย่างไร และที่นายจุรินทร์พูดอย่างนี้ ชาวบ้านชาวเมืองที่ฟัง ก็รู้ว่า อยู่ข้างกลุ่มผู้ชุมนุม
Credit : http://www.thairath.co.th/